วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

สถานที่ท่องเที่ยวจ.ราชบุรี




ตลาดน้ำดำเนินสะดวก

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากของราชบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพฯราว 80 กิโลเมตร
ในราวปี พ.ศ. ๒๔๐๙ รัชกาลที่ ๔ โปรดเกล้าฯให้ขุดคลองดำเนินสะดวกระยะทางกว่า ๓๒ กิโลเมตร เชื่อมแม่น้ำแม่กลองที่บางนกแขวกกับแม่น้ำท่าจีนที่ประตูน้ำบางยาง และมีคลองซอยเล็ก ๆ มากมาย ทำให้ชาวบ้านในราชบุรี
สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร สามารถติดต่อกันทางน้ำได้สะดวก ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เปิดตัวสู่สายตาชาวโลก
ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๑๐ ในภาพของตลาดลอยน้ำที่คราคร่ำไปด้วยเรือพายลำย่อม
บรรทุกสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ พ่อค้าแม่ค้าสวมเสื้อผ้าโทนสีเข้มแบบชาวสวน ใส่หมวกงอบใบลาน พายเร่ขายแลกเปลี่ยนสินค้าในยามที่เส้นทางคมนาคมทางน้ำเป็นหัวใจหลัก ปัจจุบันตลาดน้ำดำเนินสะดวก
เริ่มต้นค้าขายกันตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงช่วงประมาณ ๑๑.๐๐ น.

การเดินทางไปตลาดน้ำดำเนินสะดวก
รถยนต์ จากกรุงเทพฯสามารถเดินทางไปตลาดน้ำดำเนินสะดวกได้สองเส้นทางคือ
1. เดินทางไปตามถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข ๔) ผ่านบางแค สวนสามพราน นครชัยศรี นครปฐม
เลยกิโลเมตรที่ ๘๓ ไปเล็กน้อย จะพบแยกบางแพ เลี้ยวซ้ายมือไปตามทางหลวงหมายเลข ๓๒๕ อีกประมาณ ๒๕ กิโลเมตร
แยกขวาอีก 1 กิโลเมตร
2. เดินทางไปตามสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข ๓๕) ระยะทาง ๖๓ กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข ๓๒๖
ผ่านตัวเมืองสมุทรสงคราม เลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข ๓๒๕ ไปประมาณ ๑๒ กิโลเมตรถึงทางเข้าตลาดน้ำซึ่งอยู่ก่อน
ถึงสะพานธนะรัชต์ ๒๐๐ เมตรและ แยกซ้ายไปอีก 1 กิโลเมตร รถประจำทาง มีรถโดยสารปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-ดำเนินสะดวก
ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี เที่ยวแรกออกตั้งแต่เวลา ๐๕.๐๐ น. ถึงปากทางเข้าตลาดน้ำดำเนินสะดวก
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นสามารถโดยสารรถสองแถวเข้าไปถึงตลาดน้ำดำเนินสะดวกเป็นระยะทางอีก 1 กิโลเมตร
สอบถามสถานีขนส่งสายใต้ โทร. ๔๓๕-๑๑๙๙, ๔๓๕-๑๒๐๐
นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปกับรถโดยสารสายอื่นได้ เช่น สายกรุงเทพฯ-ราชบุรี, กรุงเทพฯ-เพชรบุรี(สายเก่า)
แล้วลงตรงสี่แยกบางแพ ต่อจากนั้นต่อรถสองแถวซึ่งวิ่งระหว่างทางแยกบางแพไปดำเนินสะดวก มีรถออกทุก ๑๐ นาที


สถานที่ท่องเที่ยวจ.พังงา




หมู่เกาะสุรินทร์ที่สุดแห่งป่าปะการังและวิถีชาวเล

พระยาสุรินทราชา เทศาเมืองภูเก็ต (นามเดิมนกยูง วิเศษกุล) เป็นผู้ค้นพบเกาะและตั้งชื่อ หมู่เกาะสุรินทร์
เมื่อครั้งที่ท่านมาสำรวจ ทะเลฝั่งอันดามัน ที่ ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา
จนกระทั่งวันที่ 30 ธันวาคม 2514 กรมป่าไม้จึงได้ประกาศให้พื้นที่หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามันและอยู่ติดชายแดนประเทศพม่า
ห่างจากฝั่งทะเลด้านตะวันตกของไทยประมาณ 70 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ
เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะรี เกาะไข่ และเกาะกลาง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์มีเนื้อที่ประมาณ 84,375 ไร่
หรือ 135 ตารางกิโลเมตร

ความเป็นมา : กรมป่าไม้ได้ประกาศป่าหมู่เกาะสุรินทร์ ท้องที่อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เป็นป่าสงวนแห่งชาต
ิเมื่อ 30 ธันวาคม 2514 ต่อมาคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าได้มีมติในที่ประชุมครั้งที่ 1/2519
เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2519 เห็นชอบในหลักการที่จะกำหนดให้หมู่เกาะสุรินทร์เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งกรมป่าไม้ได้ติดต่อประสานงานไปยังกรมทรัพยากรธรณี ได้รับแจ้งว่า หมู่เกาะสุรินทร์อยู่ในเขตสัมปทานปิโตรเลี่ยม
แปลงที่ ตก. 9 W1 ของบริษัท WEEKS PETROLEUM จึงขอให้ระงับการประกาศเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าไว้ก่อน และบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ยังเคยถูกเสนอให้ใช้เป็นค่ายญวนอพยพ แต่เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทั้งบนบกและในทะเล ประกอบกับทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม เหมาะที่จะจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวและศึกษาหาความรู้ในด้านธรรมชาติ กรมป่าไม้จึงได้คัดค้านไม่เห็นด้วย

กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้ดำเนินการสำรวจบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์อีกครั้งหนึ่ง ปรากฏว่า มีทิวทัศน์ทางทะเลที่สวยงาม
มีปะการัง สภาพป่าที่สมบูรณ์ หาดทรายขาวสะอาด และนกนานาชนิด กรมป่าไม้จึงได้เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติซึ่ง
ได้มีมติในคราวประชุมครั้งที่ 2/2523 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2523 เห็นสมควรกำหนดบริเวณดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินหมู่เกาะสุรินทร์ ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เป็นอุทยานแห่งชาติซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 98 ตอนที่ 112 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2524
นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 29 ของประเทศไทย

ลักษณะภูมิประเทศ
หมู่เกาะสุรินทร์มีสภาพที่กำบังคลื่นลมทั้งสองฤดู เนื่องจากเกาะวางตัวอยู่เป็นกลุ่มและมีอ่าวขนาดใหญ่ ทำให้เกิดแนวปะการัง
ริมฝั่งอยู่รอบเกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ และเกาะบริวาร นอกเหนือจากการรับอิทธิพลจากคลื่นลม สภาพแวดล้อมทางสมุทรศาสตร์ของบริเวณหมู่เกาะเหล่านี้อเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะต่อการพัฒนาของแนวปะการัง
คือ น้ำใส อุณหภูมิพอเหมาะ และมีการผสมผสานของน้ำที่ได้รับสารอาหารจากมวลน้ำเบื้องล่างที่ปะทะเกาะ
ความอุดมสมบูรณ์ของแพลงก์ตอน ซึ่งเป็นอาหารสำหรับปลาและสัตว์อื่นๆ ปัจจัยทางสมุทรศาสตร์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ
ลักษณะของน้ำขึ้นน้ำลงในทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นแบบ Semidiurnal คือ น้ำขึ้นและน้ำลงอย่างละ 2 ครั้ง ใน 24 ชั่วโมง และความแตกต่างระหว่างน้ำขึ้นสูงสุดและต่ำสุดอาจถึง 3 เมตร ทำให้มีกระแสน้ำเลียบฝั่งค่อนข้างแรง

เกาะสุรินทร์เหนือ และเกาะสุรินทร์ใต้ ตั้งอยู่ชิดกันคล้ายเกาะแฝด โดยมีพื้นน้ำตื้นๆ กว้างประมาณ 200 เมตร กั้นอยู่
ในช่วงน้ำลงสามารถข้ามไปยังอีกเกาะได้ เรียกว่า อ่าวช่องขาด ส่วนเกาะขนาดเล็กอีกสามเกาะเป็นเกาะหินที่มีต้นไม้แคระแกร็น
ขึ้นอยู่ไม่หนาแน่นนัก พืชพรรณที่พบเป็นพืชป่าดิบชื้น เป็นแหล่งกำเนิดของแนวปะการังน้ำตื้นขนาดใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย

ลักษณะภูมิอากาศ
สามารถแบ่งฤดูกาลออกได้เป็น 2 ฤดู ได้แก่ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ปริมาณฝนเฉลี่ยในแต่ละปีจะมีค่ามากกว่า 3,000 มิลลิเมตร
ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตลอดทั้งปีประมาณ 83 เปอร์เซ็นต์ ในฤดูฝนเป็นช่วงที่ได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
นอกจากจะทำให้ฝนตกหนักแล้ว ท้องทะเลยังมีคลื่นลมแรงทำให้การเดินทางไปท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
์ในช่วงนี้ไม่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว ทางอุทยานแห่งชาติจึงกำหนดปิด-เปิดฤดูการท่องเที่ยวประจำปี ดังนี้
ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม - 14 พฤศจิกายน ของทุกปี
เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน - 15 พฤษภาคม ของทุกปี



สถานที่ท่องเที่ยวจ.ตรัง




ถ้ำเลเขากอบ Unseen Thailand
ล่องธาราใต้พิภพ พบความมหัศจรรย์ของโลกใต้หล้า
การผจญภัยเล็กๆ ในถ้ำเลเขากอบ เพื่อชมหนึ่งความอัศจรรย์ของธรรมชาติของถ้ำบนแผ่นดิน
ถ้ำเลเขากอบซึ่งเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่ทำให้เกิดธารน้ำไหลตลอดถ้ำบนแผ่นดิน
มีลักษณะเป็นภูเขาผาหินสูงชันสลับซับซ้อน มีลำคลองที่ไหลมาจากเทือกเขาบรรทัด เมื่อไหลมาถึงบริเวณเขากอบ
จะแยกออกเป็น 3 สาย โดยสองสายจะไหลอ้อมภูเขาและอีกสายหนึ่งจะไหลลอดถ้ำใต้ภูเขา
ฃซึ่งเป็นประติมากรรมธรรมชาติซึ่งหาชมได้ยากยิ่งในที่อื่นๆ ระยะทางประมาณ 4 กม. มีโถงถ้ำหลายแห่ง
เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำรากไทร และถ้ำท้องพระโรง ความสนุกสนานตื่นเต้นจะเกิดขึ้น
เมื่อนั่งเรือลอดไปใน"ท้องมังกร" ซึ่งเป็นลำธารใต้ภูเขา นักท่องเที่ยวต้องเอนตัวราบเมื่อเพดานถ้ำอยู่ใกล้แค่นอนเอื้อมมือ
ขณะที่หินย้อยห่างจากปลายจมูกไม่ถึงนิ้ว
จังหวัดตรัง
“มรกตแห่งอันดามัน” ที่แสนโด่งดังแห่งหนึ่งของไทย สวยงามด้วยหาดทราย เกาะแก่ง สถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปพักผ่อน
เช่น หาดปากเมง หาดอันงดงามและเงียบสงบ ยาวเหยียดไปตามชายฝั่งทะเลอันดามัน จุดชมตะวันลับห้วงน้ำที่ดีที่สุด เกาะลิบง
เกาะซึ่งใหญ่ที่สุดใน อ.กันตัง เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า แหล่งรวมของนกชายเลนอพยพ
หลายชนิด ที่อยู่อาศัยของหญ้าทะเลและ “พะยูน" สัตว์ทะเลซึ่งหายากที่สุดชนิดหนึ่ง
การเดินทางไปถ้ำเลเขากอบ
ตามเส้นทางสายตรัง-ห้วยยอด 5 กม. แยกซ้ายเข้าถนน รพช. บ้านเขากอบ-เขาหัวแหวน อีกราว 700 ม.
ถ้ำเลเขากอบสามารถเที่ยวได้ตลอดปี ยกเว้นในฤดูฝนบางช่วงที่มีปริมาณน้ำมาก เรืออาจเข้าไปไม่ได้
อบต. เขากอบจัดเรือพายบริการนำเที่ยว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อบต. เขากอบ โทร 0 7527 1808 และ ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยว
จังหวัดตรัง โทร 0 7521 5867 ถ้ำเลเขากอบ ถ้ำเลเขากอบเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่ทำให้เกิดธารน้ำไหลตลอด
ถ้ำบนแผ่นดิน มีลักษณะเป็นภูเขาผาหินสูงชันสลับซับซ้อน มีลำคลองที่ไหลมาจากเทือกเขาบรรทัด
เมื่อไหลมาถึงบริเวณเขากอบจะแยกออกเป็น 3 สาย โดยสองสายจะไหลอ้อมภูเขาและอีกสายหนึ่งจะไหลลอดถ้ำใต้ภูเขา
ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย ระยะทาง 4 กิโลเมตร อบต. เขากอบ ได้จัดเรือพายบริการนำเที่ยวชมความงามของถ้ำ ถือเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศของชุมชนในท้องถิ่น ค่าบริการเรือลำละ 200 บาท/6 คน หรือคนละ 30 บาท
ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่องเรือได้ตั้งแต่เวลา 8.00–18.00 น. สอบถามรายละเอียดได้ที่
องค์การบริหารส่วนตำบลเขากอบ โทร. 0 7527 1808 ,0 7527 1426
การเดินทาง ห่างจากที่ว่าการอำเภอห้วยยอด ตามถนนเพชรเกษมประมาณ 7 กิโลเมตร แยกซ้ายเข้าบ้านเขากอบประมาณ 700 เมตร

สถานที่ท่องเที่ยวจ.เพชรบูรณ์





เขาค้อ เป็นชื่อเรียกรวมทิวเขาน้อยใหญ่ของเทือกเขาเพชรบูรณ์ ในเขตอำเภอเขาค้อ เหตุที่เรียกกันว่า เขาค้อ
เป็นเพราะป่าบริเวณนี้มีต้นค้อขึ้นอยู่มาก เนื่องจากภูมิอากาศบนเขาค้อเย็นตลอดปี ค่อนข้างเย็นจัดในฤดูหนาว
และมีทัศนียภาพสวยงาม จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของเพชรบูรณ์
เขาค้อประกอบด้วยภูเขาสลับซับซ้อนมากมาย ยอดเขาค้อ มีความสูงประมาณ 1,174 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
เขาย่าสูง 1,290 เมตรและเขาใหญ่ สูง 865 เมตร นอกจากนั้นยังมีเขาตะเคียนโง๊ะ เขาหินตั้งบาตร เขาห้วยทราย
และเขาอุ้มแพ ลักษณะป่าไม้ในแถบนี้เป็นป่าเต็งรังหรือป่าไม้สลัดใบ ป่าสน และป่าดิบ ที่น่าสนใจก็คือ พันธุ์ไม้ตระกูลปาล์ม
ลักษณะคล้ายต้นตาล แต่ออกผลเป็นทะลายคล้ายหมาก แม้ปัจจุบันป่าจะถูกถางไปมากก็ตาม แต่ก็ยังมีให้เห็นอยู่บ้าง

สถานที่น่าสนใจบนเขาค้อ
อนุสาวรีย์จีนฮ่อ เป็นอนุสาวรีย์ทหารอาสาจากหน่วยรบกองพลที่ 93 ซึ่งมาช่วยรบในพื้นที่เขาค้อ
และเสียชีวิตในการสู้รบ ตั้งอยู่เลยกิโลเมตรที่ 23 ของทางหลวงหมายเลข 2196 ไปเล็กน้อย
ฐานอิทธิ (พิพิธภัณฑ์อาวุธ) อยู่เลยกิโลเมตรที่ 28 ทางหลวงหมายเลข 2196
ไปเล็กน้อย แล้วแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2323 ไปประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นจุดหนึ่งที่เห็นทิวทัศน์สวยงาม
และเคยเป็นฐานสำคัญทางยุทธศาสตร์ในอดีต
ปัจจุบันจัดเป็นพิพิธภัณฑ์อาวุธ จัดแสดงปืนใหญ่ ซากรถถัง และอาวุธที่ใช้สู้รบกันบนเขาค้อ
มีห้องบรรยายสรุปแก่ผู้เข้าชมเป็นหมู่คณะด้วย
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ค่าเข้าชมคนละ 10 บาท

อนุสรณ์สถานผู้เสียสละ
อยู่บนยอดเขาสูงสุดของเขาค้อ อยู่เลยฐานอิทธิ ไปอีก 1 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนวีรกรรมของพลเรือน ทหาร ตำรวจ ทหาร ผู้พลีชีพในการสู้รบเพื่อปกป้องพื้นที่ในเขตรอยต่อ 3 จังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511-2525 โดยสร้างด้วยหินอ่อนเป็นรูปสามเหลี่ยมสูง 24 เมตร หมายถึง การปฏิบัติการร่วมกันระหว่างพลเรือน ตำรวจ ทหารใน ปี พ.ศ. 2524 ผนังภายในบันทึกประวัติอนุสรณ์สถานและรายชื่อวีรชนผู้เสียสละไว้ด้วย
เจดีย์พระบรมสารีริกธาตุเขาค้อ
ตั้งอยู่บนยอดเขาที่บ้านกองเนียม ยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุซึ่งอัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา เจดีย์แห่งนี้ชาวเพชรบูรณ์สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์
ครบ 50 ปี ในวันสำคัญทางศาสนาเช่น วันมาฆบูชาจะมีประชาชนเดินทางมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ทำพิธีเวียนเทียน เป็นประจำ

หอสมุดนานาชาติ
ตั้งอยู่ที่เดียวกับเจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ เป็นหอสมุดขนาดใหญ่ออกแบบเป็นรูปเพชรคว่ำ สร้างด้วยกระจกสะท้อนแสง
ภายในเก็บรักษาหนังสือทั้งภาษาไทยและ ภาษาต่างประเทศ ในเดือนธันวาคมของทุกปีจะมีการจัดงาน “วันนัดพบเอกอัครราชทูต ณ เขาค้อ”โดยเชิญเอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆ มาร่วมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมของจังหวัด

พระตำหนักเขาค้อ
ตั้งอยู่บนเขาย่า จากสี่แยกสะเดาพงบนทางหลวงหมายเลข 2258 มีป้ายบอกทางไปพระตำหนักอีก 4 กิโลเมตร
ทางขึ้นค่อนข้างสูงชัน พระตำหนักนี้สร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายแด่องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรงานโครงการในพระราชดำริและทรงตรวจเยี่ยมราษฎรอำเภอเขาค้อและ
ใกล้เคียง เป็นอาคารคอนกรีตครึ่งวงกลมมีทั้งหมด 15 ห้องรูปทรงแปลกตาไปจากพระตำหนักอื่นสามารถขออนุญาตเจ้าหน้าที่
เข้าชมบริเวณโดยรอบพระตำหนักได้ น้ำตกศรีดิษฐ์ ไปตามทางหลวงหมายเลข 2196 ถึงหลักกิโลเมตรที่ 17 แล้ว
แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2325 อีกประมาณ 10 กิโลเมตรแล้วแยกขวาเข้าน้ำตก น้ำตกศรีดิษฐ์เป็นน้ำตกหินชั้น มีน้ำไหลตลอดทั้งป
ี เคยเป็นที่อยู่ของ ผกค. มาก่อน สิ่งที่น่าสนใจคือ ครกตำข้าวพลังงานน้ำตกที่ ผกค.สร้างไว้

สวนสัตว์เปิดเขาค้อ ใช้เส้นทางเดียวกับน้ำตกศรีดิษฐ์ เมื่อถึงกิโลเมตรที่ 7 แยกซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 3.5 กิโลเมตร มีทั้งสัตว์ที่ปล่อยตามธรรมชาติและสัตว์ที่เลี้ยงไว้ในกรง หากผู้ที่เข้าชมเป็นหมู่คณะต้องการเจ้าหน้าที่บรรยายและนำชมให้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่า ต้องทำหนังสือล่วงหน้าถึง หัวหน้าโครงการสวนสัตว์เปิดเขาค้อ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เนินมหัศจรรย์ อยู่ที่บริเวณ กิโลเมตรที่ 17.5
ถนนสายนางั่ว-สะเดาะพง (ทางหมายเลข 2258) เมื่อขับรถมาถึงตรงนี้ และดับเครื่องรถจะถอยหลังขึ้นเนินได้เอง
ปรากฎการณ์ดังกล่าวเกิดจากภาพลวงตา เพราะในความเป็นจริงเมื่อวัดระดับความสูงของพื้นที่สองจุดแล้ว
ความสูงของเนินจะมีระดับต่ำกว่าช่วงที่เป็นทางขึ้นเนิน
การเดินทาง
จากเพชรบูรณ์ไปเขาค้อใช้ทางหลวงหมายเลข 21 (เพชรบูรณ์-หล่มสัก)
ถึงสามแยกนางั่ว ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 2258 อีก 30 กิโลเมตร
อีกเส้นทางหนึ่งคือ ไปตามทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 100 (บ้านแคมป์สน)
เลี้ยวซ้ายเข้าเขาค้อตามทางหลวงหมายเลข 2196 อีกประมาณ 33 กิโลเมตร พาหนะที่จะขึ้นเขาค้อ ไม่ควรใช้รถบัสขนาดใหญ่
เพราะมีทางโค้งมาก ถนนค่อนข้างแคบและลาดชัน ควรใช้รถปิคอัพหรือรถตู้สภาพดี

นักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถประจำทางสามารถเช่ารถสองแถวได้ที่ปากทางขึ้นเขาค้อ บริเวณแคมป์สน กิโลเมตรที่ 100
ในราคาวันละประมาณ 600 บาท มีรถจอดคอยให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. หรืออาจเช่ารถสองแถวที่บริเวณตลาดเทศบาล
ในตัวเมืองเพชรบูรณ์ ราคาวันละประมาณ 800 บาท ที่พักบนเขาค้อ มีให้เลือกหลายแห่ง ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณตำบลทุ่งสมอและแคมป์สน ห่างจากสถานที่ท่องเที่ยวบนเขาค้อประมาณ 30 กิโลเมตร ที่พักที่อยู่ใกล้ที่สุดได้แก่ บ้านพักทหารม้า กิโลเมตรที่ 28 ทางหลวงสาย 2196
กองพลทหารม้าที่ 28 และเรือนพักผู้ติดตามอยู่ใกล้กับพระตำหนักเขาค้อและเขาย่า
นอกจากนี้ยังมีรีสอร์ทต่างๆ ที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางขึ้นเขาค้อ


สถานที่ท่องเที่ยวจ.แม่ฮ่องสอน




อำเภอ ปาย

ปาย...อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย
ความเงียบสงบ ลำน้ำปายสายน้อยที่ไหลผ่านกระต๊อบเล็ก ๆ อันเป็นที่พำนักของนักท่องเที่ยว
ภูเขาที่ใหญ่น้อยที่โอบล้อมอำเภอปาย เป็นสเน่ห์ที่ประทับใจนักท่องเที่ยวอย่างไม่รู้เลือน
ในฤดูฝน ริมลำน้ำปายจะดารดาษไปด้วยทุ่งนาข้าวเขียวขจี และเมื่อย่างเข้าฤดูหนาว ทุ่งนาข้าวก็จะแปรเปลี่ยนเป็นไร่กระเทียมที่ทอดตัวยาวไปจรดเชิงเขาท่ามกลางสายหมอกเย็นระรื่น
เมื่อราตรีมาเยี่ยมเยือน ถนนก็เริ่มครึกครื้น ชาวดอยต่าง ๆ ก็ปูผ้ากันริมถนนขายสินค้าพื้นเมือง ทั้งย่ามทอมือ ผ้าปักหลากสี ร้านขายโปสการ์ดทำเองก็เริ่มเปิดไฟดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมเยือน เมื่อเสียงเพลง Ginger Tea ดังขึ้นชาวต่างชาติกลุ่มใหญ่ก็เข้ามารุมล้อมรถเข็นขายน้ำขิงในกระบอกไม้ไผ่ และรับฟังเพลงน่ารัก ๆ จากปากแม่ค้า ทุกอย่างนี้ล้วนแต่งแต้มสีสันให้เมืองปายในยามราตรีให้ดูสดใสทุกค่ำคืน
แหล่งท่องเที่ยวอีกหลายแห่งในอ.ปาย ไม่ว่าจะเป็น วัดน้ำฮู, วัดพระธาตุแม่เย็น, น้ำตกหมอแปง,สะพานประวัติศาสตร์
ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งสิ้น ซึ่งทำให้เมืองปายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในใจของผู้มาเยือนเสมอมา


วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

สถานที่ท่องเที่ยวจ.สตูล




อุทยานแห่งชาติทะเลบัน

สตูล
ตั้งอยู่หมู่ที่ 11 บ้านวังประจัน ตำบลควนสตอ อุทยานฯ มีเนื้อที่ทั้งหมด 196 ตรกม. หรือ 122,000 ไร
่ โดยรวมเอาเนื้อที่ของป่าสงวนแห่งชาติกุปัง ปุโล๊ต และหัวกะหมิงเข้าด้วยกัน และยังผนวกพื้นที่ป่าควนบ่อน้ำปูย
ู ในท้องที่ตำบลบ้านควน ตำบลปูยู อำเภอเมือง จังหวัดสตูลอุทยานฯ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 40 กม.
คำว่า "ทะเลบัน" มาจากคำว่า "เลิด เรอบัน" เป็นภาษามลายูแปลว่า ทะเลยุบหรือทะเลอันเกิดจากการยุบตัวของแผ่นดิน อุทยานแห่งชาติทะเลบันเกิดจากการยุบตัวของพื้นดินระหว่างเขาจีนและเขามดแดง เป็นหนองน้ำขนาดใหญ่มีเนื้อที่ประมาณ 63,350 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง จึงอุดมไปด้วยพืชพรรณป่าไม้ที่ขึ้นอย่างหนาแน่น
และรอบๆ บึงจะมีพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งชื่อต้น "บากง" ขึ้นอยู่หนาแน่นแลดูสวยงาม นอกจากนี้ยังมีสัตว์อื่นๆ อีก เช่น นกน้ำชนิดต่างๆ สมเสร็จที่มักลงมากินน้ำตามริมบึงเสมอๆที่อุทยานแห่งชาติทะเลบันยังมีสัตว์อีกชนิดหนึ่งเรียกว่า "หมาน้ำ"
เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำรูปร่างคล้ายกบและคางคก แต่มีหางส่งเสียงร้องคล้ายลูกสุนัข จะมีชุกชุมตามริมบึงโดยเฉพาะในฤดูฝน สัตว์ชนิดนี้จะมีอยู่เฉพาะที่ทะเลบันเท่านั้น อุทยานแห่งชาติทะเลบันได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาต
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2523

สถานที่ท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติทะเลบัน

ทะเลบัน
เป็นบึงน้ำขนาดใหญ่กลางหุบเขา ขนาบด้วยเทือกเขาจีนและเขาวังประ มีเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ มีปลาน้ำจืดและหอยชุกชุม น้ำใสสะอาดจนสามารถมองเห็นสาหร่ายและฝูงปลาว่ายไปมา บางครั้งจะมีสมเสร็จลงมากินน้ำเป็นภาพที่น่าประทับใจ
รอบบึงมีพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งขึ้นอยู่หนาแน่น ชาวบ้านเรียกว่า "ต้นบากง" ทางอุทยานฯ ได้สร้างศาลาท่าน้ำไว้ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อนด้วย

น้ำตกรานี
เป็นน้ำตกขนาดเล็ก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เพียง 200 เมตร จะมีทางเดินเท้าแยกจากทางไปบ้านพักริมบึงซึ่งเป็นบ้านพักของอุทยานฯ
จนถึงตัวน้ำตก น้ำตกแห่งนี้มีน้ำน้อยแต่จะไหลอยู่ตลอดปี

ทุ่งหญ้าวังประ

เป็นทุ่งหญ้าในที่ราบอันกว้างใหญ่ระหว่างภูเขาทางทิศตะวันตกของอุทยานฯ มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากเช่น สมเสร็จ กระจง เม่น ไก่ป่า เป็นต้น

การเดินทางไปทุ่งหญ้าวังประ จากที่ทำการอุทยานฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4184 (สายควนสตอ-เขตแดน) กลับออกมาทางปากทางราว 8 กม. จะเห็นป้ายบอกทางเข้าทุ่งหญ้าวังประ ทางซ้ายมือเป็นทางลูกรัง ระยะทางประมาณ 10.5 กม. การเดินทางในฤดูร้อนจะสะดวกกว่า

เขตแดนไทย-มาเลเซีย
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เพียง 2 กม. บริเวณเขตแดนมีหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ตั้งอยู่ มีที่นั่งพักผ่อนใกล้เชิงเขา ธรรมชาติร่มรื่น
หากเดินทางต่อไปอีก ประมาณ 23 กม. ก็จะถึงปาดังเบซาร์ แหล่งชุมนุมสินค้าต่างประเทศราคาถูก หรือหากต้องการไปยังเมืองกางะซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐเปอร์ลิส ก็สามารถไปได้เพียงเดินทางไปอีกประมาณ 30 กม.เท่านั้น
ด่านนี้เปิดตั้งแต่ 06.00-19.00 น. และจะมีตลาดนัดทุกวันอาทิตย์ในช่วงเช้า ส่วนมากจะเป็นสิ่งของอุปโภคบริโภคทั่วไป

น้ำตกยาโรย เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีต้นน้ำมาจากลำธารในป่าหัวกระหมิง มีความสวยงามเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของอุทยานฯ
น้ำตกนี้มีทั้งหมด 9 ชั้น ไหลลดหลั่นลงมาตามภูเขา แต่ละชั้นเป็นแอ่งสามารถเล่นน้ำได้ การเดินทางไปชมน้ำตกยาโรย จากที่ทำการฯ
ใช้ทางหลวงหมายเลข 4184 (สายควนสตอ-วังประจัน) ประมาณ 7 กม. จะมีทางลูกรังแยกขวามือเข้าไปอีก 700 เมตร

น้ำตกโตนปลิว

เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในอุทยานฯ และในจังหวัดสตูล น้ำตกแห่งนี้มีน้ำมากไหลตลอดทั้งปี มีต้นน้ำมาจากภูเขาจีน การเดินทางไปชมน้ำตกโตนปลิวใช้เส้นทางหมายเลข 4184 (สายควนสตอ-วังประจัน) ซึ่งน้ำตกโตนปลิวอยู่ห่าง
จากน้ำตกยาโรยประมาณ 6 กม. หรือห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ไปประมาณ 12 กม. จะมีทางลูกรังแยกไปอีก 3 กม.

ถ้ำลอดปูยู
(ปูยู แปลว่า ปลาหมอ) เป็นถ้ำลอดที่มีลักษณะคล้ายกับถ้ำลอดที่อ่าวพังงา แต่มีขนาดเล็กกว่าอยู่ทางทิศใต้ของอุทยานฯ
ถ้ำลอดปูยูตั้งอยู่ที่เขากาหยัง (กาหยัง แปลว่าหลังคาเรือเอี้ยมจุ๊น) ต.ปูยู ห่างจากตัวจังหวัด 15 กม. บนเพดานถ้ำมีหินงอกหินย้อยบ้าง
มีคลองท่าจีนไหลผ่านถ้ำ และสองฝั่งของคลองเป็นป่าโกงกางตลอดแนว จากถ้ำประมาณ 1 กม. จะถึงถ้ำกาหยังซึ่งเป็นถ้ำที่มีค้างคาวอาศัยอยู่มาก
การเดินทางไปชมถ้ำลอดปูยูจากตัวเมืองสตูลไปลงเรือที่ท่าเรือตำมะลัง ซึ่งห่างจากตัวเมือง 9 กม.จากท่าเรือตำมะลัง
เช่าเรือหางยาวไปถ้ำลอดที่คลองท่าจีน ค่าโดยสารประมาณ 400-500 บาท (ขึ้นกับขนาดของเรือและจำนวนนักท่องเที่ยว)


การเดินทางจากจังหวัดสตูลไปอุทยานแห่งชาติทะเลบัน

จากตัวเมืองสตูลใช้ทางหลวงหมายเลข 406 ระยะทาง 19 กม. จะมีทางแยกขวามือสู่ทางหลวงหมายเลข 4184 ก.ม.
ที่ 61 ระยะทางประมาณ 20 กม. เป็นทางราดยางถึงที่ทำการอุทยานฯ มีบริการรถสองแถวจากตลาดเทศบาลวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสาร
ภายในตัวเมือง และจากปากทางเข้าไปจนถึงอุทยานฯ (จากที่ทำการอุทยานฯ ห่างจากด่านวังประจันซึ่งเป็นเขตติดต่อระหว่างไทย-มาเลเซีย
ประมาณ 1 กม. และจากด่านถึงปาดังเบซาร์ 25 กม.)

ในเขตอุทยานฯ มีบ้านพัก และสถานที่ตั้งเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ส่วนอุทยานแห่งชาติ หรือที่ส่วนอุทยานสำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมป่าไม้ บางเขน กรุงเทพฯ โทร. 579-5734, 579-7223
และที่ทำการอุทยานแห่งชาติทะเลบัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล 91160 โทร. (074) 797073

ฤดูท่องเที่ยวจังหวัดสตูล

เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดสตูล เป็นเกาะในช่องแคบมะละกา ช่วงที่มีลมพัดแรงจังไม่สะดวกต่อการเดินทาง และเสี่ยงอันตรายช่วงที่เหมาะสมที่สุดต่อการเดินทางอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม เป็นช่วงที่มีอุณหภูมิต่ำและมีฝนน้อย ช่วงที่เหมาะสมรองลงมาคือระหว่าเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนเมษายน เป็นฤดูแล้ง แต่อุณหภูมิค่อนข้างสูง สำหรับเดือนพฤษภาคม ถึงตุลาคม
มีฝนตกชุก การเดินทางไม่สะดวกและไม่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวควรจะตรวจสภาพอากาศก่อนเดินทางทุกครั้ง


สถานที่ท่องเที่ยวจ.อุบลราชธานี


อุทยานแห่งชาติผาแต้ม

อุบลราชธานีมีพื้นที่ประมาณ 140 ตารางกิโลเมตร ในเขตอำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทรได้
้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2534 สภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบสูง และเนินเขา
มีหน้าผาสูงชันซึ่งเกิดจากการแยกตัวของผิวโลก สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าเต็งรัง
มีหินทรายลักษณะแปลกตากระจายอยู่ทั่วบริเวณ มีพันธุ์ไม้ดอกที่สวยงามขึ้นอยู่ตามลานหิน
การเดินทางจากอำเภอโขงเจียมใช้ เส้นทาง 2134 ต่อด้วยเส้นทาง 2112 แล้วแยกขวาไปผาแต้ม อีกราว 5 กิโลเมตร
รวมระยะทางจาก โขงเจียมประมาณ 18 กิโลเมตร สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ ได้แก่

เสาเฉลียง
อยู่ก่อนถึงผาแต้มประมาณ 3 กม. เป็นหินตั้งซ้อนกันโดยธรรมชาติ มีลักษณะคล้ายดอกเห็ดเรียงรายกันอยู่มากมาย
ซึ่งหินดังกล่าวจะปรากฏเห็นซากเปลือกหอย กรวด ทราย อยู่ในแผ่นดินขนาดใหญ่ ซึ่งนักธรณีวิทยาสันนิษฐานว่า
เมื่อประมาณล้านกว่าปีมาแล้ว บริเวณนี้คงจะเป็นทะเลมาก่อน

ดอนตะนะ
เป็นดอนที่เกิดขวางแม่น้ำมูล และแบ่งแม่น้ำออกเป็นสองสาย มีความกว้างประมาณ 450 เมตร ยาวประมาณ 700 เมตร ทางตอนเหนือของดอนตะนะมีหาดทรายเหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง บนดอนตะนะยังมีป่าอยู่ทั่วไป เป็นสภาพป่าดิบแห้ง มีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น และมีป่าสักขึ้นตาม ธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันสามารถเดินข้ามสะพานแขวนไปยังดอนตะนะได้

ผาแต้มและผาขาม
เป็นหน้าผาสูงที่สวยงามตามธรรมชาติ บริเวณด้านล่างของหน้าผามีภาพเขียนสี ก่อนประวัติศาสตร์ปรากฏเรียงรายอยู่เป็นระยะ
มีอายุไม่ต่ำกว่าสามพันถึงสี่พันปี ทางอุทยานฯ ได้ทำทางเดินจากหน้าผาด้านบนลงไปชมภาพเขียนสีเหล่านี้ที่หน้าผาด้านล่าง
ระยะทางประมาณ 500 เมตร ภาพเขียนจะอยู่บนผนังหน้าผายาวติดต่อกันประมาณ 170 เมตร ซึ่งเป็นมุมต่ำกว่า 90 องศา
มีภาพทั้งหมด ประมาณ 300 ภาพ แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ สัตว์ เครื่องมือเครื่องใช้สัญลักษณ์ และคน ด้านตรงข้ามผา แต้มคือ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจจะชม พระอาทิตย์ขึ้นก่อนที่แห่งใดในประเทศไทย ในบริเวณดังกล่าวในลักษณะเดียวกันกับที่หมู่บ้านเวินบึกที่ตั้ง อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงไม่ไกลจากบริเวณแม่น้ำสองสีมากนัก ซึ่งทุกวันนี้จะมีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปท่อง เที่ยวเป็นจำนวนมาก

ถ้ำมืด
ตั้งอยู่ที่บ้านซะซอม ตามทางหลวงหมายเลข 2112 เลี้ยวซ้ายไปทางบ้านทุ่งนาเมือง ประมาณ15 กิโลเมตร
เป็นถ้ำขนาดกว้าง 4 เมตร สูง 6 เมตร ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปแกะสลัก เรียงรายกันมากมาย
แสดงว่าคงจะเคยใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนามาก่อน

น้ำตกสร้อยสวรรค์
ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 2112 ห่างจากตัวอำเภอโขงเจียมประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่
ไหลจากหน้าผาสูงชันสองด้านสูงประมาณ 20 เมตร มองดูคล้ายสร้อยที่ แขวนอยู่ในคอ มีน้ำไหลตลอดปี
บริเวณน้ำตกเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์

น้ำตกทุ่งนาเมือง
ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 2112 ห่างจากน้ำตกสร้อยสวรรค์ ประมาณ 13 กิโลเมตร เป็นน้ำตก ขนาดกลางที่มีความสวยงาม และอยู่ใกล้เส้นทางน้ำไหลลดหลั่นลงมาตามโขดหิน ชั้น บนสูงสุดประมาณ 25 เมตร บริเวณโดยรอบมีดอกไม้ต่างๆ มากมาย

น้ำตกแสงจันทร์ (น้ำตกรู)
อยู่ห่างจากน้ำตกทุ่งนาเมืองเพียง 1 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 2112 เป็นน้ำตกที่มี ความสวยงามและมีลักษณะพิเศษ คือ น้ำจะตกลงผ่านปล่องหินสู่เบื้องล่าง มองดูคล้ายแสงจันทร์ซึ่งเต็มดวงลาดส่องมายังพื้นโลก บริเวณโดยรอบมีโขดหินน้อยใหญ่เรียงรายกันอยู่
และมีต้นไม้ นานาพันธุ์

นอกจากนี้ยังมีสถานที่น่าสนใจอื่นๆ อีก ได้แก่ ผาเจ็ก ผาเมย ภูนาทาม ภูโลง สวนหิน ภูกระบอ ภูจ้อมค้อม น้ำตกห้วยพอก ฯลฯ ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์สวยงาม เหมาะสำหรับการเดินทาง ท่องเที่ยวแบบทัวร์ป่า

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ยังไม่มีบริการบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว ผู้ประสงค์จะค้างแรมในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม
ต้องเตรียมอุปกรณ์การพักแรมมาเอง และต้องกางเต๊นท์ ในที่ซึ่งอุทยานฯ จัดเตรียมไว้ให้









วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

สถานที่ท่องเที่ยวจ.ตราด




อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง (กิ่งอำเภอเกาะช้าง)

ตราด

เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งที่สี่ มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 650 ตรกม. ประกอบด้วยเกาะต่างๆ 47 เกาะเรียงราย
ตั้งแต่เขตอำเภอแหลมงอบ อำเภอเมือง และอำเภอคลองใหญ่ เกาะที่สำคัญที่สุด คือ เกาะช้าง นอกจากนี้ยังมีเกาะอื่นๆ
ที่ยังคงสภาพความสวยงามตามธรรมชาติได้แก่ เกาะคลุ้ม เกาะเหลายาใน เกาะง่าม เกาะไม้ชี้ใหญ่ เกาะหวาย เกาะรัง ฯลฯ ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2525

เกาะช้าง

ตั้งอยู่ในเขตอำเภอแหลมงอบ เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองจากเกาะภูเก็ตมีเนื้อที่ประมาณ 429 ตรกม. ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเขาสูงมีผาหินสลับซับซ้อนยอดเขาที่สูงที่สุด ได้แก่ เขาสลักเพชร (สูง744 เมตร)
รองลงไป ได้แก่ เขาจอมประสาท และเขาหอม มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบเขา อันเป็นบ่อเกิดของต้นน้ำลำธาร
ทำให้มีน้ำตกหลายแห่งบนเกาะ ชายหาดที่สวยงามอยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะ บนเกาะช้างมีประชาชนอาศัยอยู่ถึง 8 หมู่บ้าน
ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะช้างใกล้คลองธารมะยมที่ด้านหน้ามีท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ของอุทยานฯ
นอกจากนี้ยังมีหน่วยพิทักษ์อุทยานอีก 3 จุด คือ บริเวณอ่าวคลองสน บริเวณทางเข้าน้ำตกคลองพลู และบริเวณหมู่บ้านสลักเพชร

สถานที่น่าสนใจ บนเกาะช้าง

หาดทรายขาว

เป็นหาดที่มีระยะทางยาว 6 กม. มีบังกะโลตั้งอยู่หลายแห่ง มีถนนรอบเกาะตัดชิดหาดมากที่สุด สามารถเล่นน้ำได้
แต่บางช่วงของหาดจะต่างระดับ ลึกตื้นไม่เท่ากัน เลียบชายหาดมี โรงแรม รีสอร์ท ร้านค้า ร้านอาหารตตั้งอยู่เรียงรายมากมาย ดูเหมือนว่าบริเวณนี้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่าบริเวณอื่นๆ

หาดคลองพร้าว-แหลมไชยเชษฐ์

เป็นหาดทรายที่มีความยาวมาก ติดต่อกับหาดไก่แบ้หาดทราย บริเวณนี้มีความลาดมากสามารถเล่นน้ำได้
มีบังกะโลให้เช่าพักหลายแห่ง ห้องพักที่ได้มาตรฐาน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ไม่แพ้หาดทรายขาว
หาดแห่งนี้นักท่องเที่ยวให้ความนิยมมาเล่นกิฬาทางน้ำ กิจกรรมชาตหาดเป็นจำนวนมาก ตอนเหนือสุดของอ่าวคลองพร้าว
ติดต่อกับอ่าวไชยเชษฐ์ และแหลมไชยเชษฐ์ ซึ่งมีแหลมหิน มีทัศนียภาพสวยงาม แต่ไม่สามารถเล่นน้ำได้

หาดไก่แบ้

เป็นหาดทรายที่มีความลาดพอสมควร สามารถเล่นน้ำได้โดยไม่เป็นอันตราย มีบังกะโล ราคาประหยัดให้เช่าหลายแห่ง
เป็นที่นิยมอาบแดดของชาวต่างชาติ โรงแรงระดับหรูที่นิยมคือ ซีวิวรีสอร์ทอยู่บนเนินปลายสุดของหาด
ศูนย์กลางหาดอยู่บริเวณ ไก่เบ้บีช มีร้านค้า ร้านอาหาร เช่ารถ และเป็นที่จอดคิดรถสองแถว บริเวณใกล้เคียงหาด
เราจะมองเห็น เกาะมันใน(ตามรูป) เกาะมันนอก และเกาะหยวก

อ่าวใบลาน

เป็นหาดเงียบสงบ อยู่ระหว่างหาดไก่เบ้ และหมู่บ้านบางเบ้า เป็นหาดยาวประมาณ 12 กม. เล่นน้ำได้
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาอาบแดด เล่นน้ำตากลม กันที่นี่

หมู่บ้านประมงบางเบ้า

เป็นหมู่บ้านประมงที่น่าสนใจ บ้านพักอาศัยปลูกโดยปักเสาลงในทะเล มีสะพานเชื่อมติดต่อกันโดยตลอด
ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพประมงดักปลาหมึก มีบังกะโลที่พักและแหล่งปะการังใต้น้ำ

บ้านสลักเพชร-บ้านโรงถ่าน

เป็นสองชุมชนใหญ่ที่สุดบนเกาะช้าง ตั้งอยู่ติดกันทางตอนใต้ของเกาะ รอบอ่าวสลักเพชรซึ่งเป็นอ่าวใหญ่ที่สุด
บนเกาะมีท่าเทียบเรือหลายแห่ง มีบังกะโล และร้านขายอาหารเล็กๆ สลับกันไป

น้ำตกธารมะยม

อยู่หลังที่ทำการอุทยานฯ เดินผ่านสวนผลไม้เข้าไปประมาณ 500 เมตร เป็นน้ำตกขนาดกลางมี 3 ชั้น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5, 6, 7 และ 9 เคยเสด็จประพาสมายังน้ำตกนี้

น้ำตกคลองพลู

อยู่ห่างจากอ่าวคลองพร้าว 3 กม. จากนั้นต้องเดินป่าอีกประมาณ 20 นาที เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มี 3 ชั้น

น้ำตกคลองนนทรี

อยู่ห่างจากบ้านด่านใหม่ตามทางเดินเท้า 3 กม. หรือจากที่ทำการอุทยานฯ เป็นระยะทางประมาณ 4 กม. เป็นน้ำตกขนาดเล็ก

น้ำตกคีรีเพชร

เป็นน้ำตกชั้นเดียว อยู่ห่างจากชุมชนบ้านสลักเพชรผ่านสวนยางเป็นระยะทาง 3 กม.

น้ำตกคลองหนึ่ง

เป็นน้ำตกขนาดเล็ก อยู่ลึกเข้าไปจากชุมชนสลักเพชร ใกล้น้ำตกคีรีเพชร

บริเวณยุทธนาวีเกาะช้าง

จุดที่เกิดยุทธนาวีนี้อยู่ทางตอนใต้ของเกาะช้างใกล้อ่าวสลักเพชร เป็นบริเวณที่เกิดการสู้รบระหว่างไทยกับฝรั่งเศส
ในกรณีพิพาทเกี่ยวกับเขตแดนทางด้านตะวันออก เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2484 โดยฝ่ายไทยสามารถขับไล่ข้าศึกให้ล่าถอยไปได้
แต่ต้องสูญเสียเรือรบหลวง 3 ลำ คือ เรือรบหลวงสงขลา เรือรบหลวงชลบุรี และเรือรบหลวงธนบุรี และทหารอีกจำนวนหนึ่ง
ทุกปีในวันที่ 17 มกราคม กองทัพเรือจึงถือเป็นวันทำบุญประจำปี เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ทหารเรือไทยที่ได้สละชีวิต
ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องแผ่นดินไทย

อ่าวคลองสน

เป็นอ่าวอยู่ทางเหนือสุดของเกาะฝั่งตะวันตก มีบังกะโลอยู่ประปรายใกล้ๆ อ่าวคลองสนมีแนวปะการังใต้น้ำ

การเดินทางไปเกาะช้าง

- การเดินทางไปเกาะช้างจากแหลมงอบ ใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง แล้วแต่จุดใกล้ไกลบนเกาะที่จะไปขึ้นฝั่ง สำหรับฝั่งตะวันออกของเกาะสามารถเดินทางโดยทางเรือได้เกือบตลอดปี ส่วนด้านฝั่งตะวันตกของเกาะ
ประมาณเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม จะมีลมมรสุมซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือ

จากตัวเมืองบริเวณหอนาฬิกาจังหวัดตราดมีรถสองแถวไปแหลมงอบ ระยะทาง 17 กม. จากแหลมงอบเช่าเรือไปที่ทำการอุทยานฯ
ระยะทาง 8 กม. ใช้เวลา 45 นาที มีเรือโดยสารวิ่งระหว่างแหลมงอบกับจุดต่างๆ บนเกาะช้างทุกวัน วันละ 1-2 เที่ยว
อัตราค่าโดยสารคนละ 50-70 บาท หรือเช่าเหมาเรือไป-กลับ ราคาประมาณ 800-2,500 บาท ตามระยะทาง
หากเหมานำเที่ยวรอบเกาะ ราคาประมาณ 3,500 บาท ค้างคืนเพิ่มอีก 1,000 บาท การเดินทางไปเกาะช้างจากท่าเทียบ
เรือเกาะช้างเซ็นเตอร์พอยต์ ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือเปิดใหม่ของภาคเอกชนตั้งอยู่ ถนนแหลมงอบ-แสนตุ้ง
สามารถนั่งรถสองแถวสายตราด-แหลมงอบไปยังท่านี้ได้ มีเรือโดยสารและเรือเช่าเหมาลำไว้บริการนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเกาะช้าง
และหมู่เกาะต่างๆ อัตราค่าโดยสารไปเกาะช้างคนละ 80 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. (039) 538056-8

หมู่เกาะต่างๆ ที่น่าสนใจ

เกาะช้างน้อย และ แหลมช้างน้อย

อยู่ทางด้านเหนือของเกาะช้างท้องน้ำระหว่างแหลมช้างน้อย กับเกาะช้างน้อยจะมีแนวปะการังอยู่ด้วย

เกาะมันนอก-มันใน

เป็นเกาะเล็ก อยู่ตรงข้ามหาดไก่แบ้เมื่อน้ำลดจะมีหาดอยู่รอบๆ เกาะ ท้องน้ำบริเวณเกาะมันนอก-เกาะมันใน
ค่อนข้างตื้นและมีสาหร่ายสีทองขึ้นเป็นจำนวนมาก

เกาะคลุ้ม

เป็นเกาะประวัติศาสตร์จากยุทธนาวีที่เกาะช้าง เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่เหมาะสำหรับ การตกปลา และชมทัศนียภาพของลานหิน
คือ หินลูกบาตและหินลาดหลังคุ้ม

เกาะเหลายา

เป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่ใกล้กับเกาะช้าง ประกอบด้วยเกาะเหลายาใน เกาะเหลายากลาง และเกาะเหลายานอก
ใช้เวลาเดินทางจากแหลมงอบประมาณ 2.30 ชั่วโมง มีสถานที่พัก คือ เกาะเหลายาพาราไดซ์ ไอซ์ แลนด์ รีสอร์ท
มีบังกะโล 24 หลัง ราคา 1,500-1,800 บาท มีเรือของรีสอร์ทบริการ
รายละเอียดติดต่อ โทร. (039) 512818,512828, 531838-40

เกาะหวาย

เป็นเกาะใหญ่อีกเกาะหนึ่ง ตั้งอยู่ใกล้กับเกาะเหลายา ใช้เวลาเดินทางจากแหลมงอบประมาณ 2.30 ชั่วโมง
หาดส่วนใหญ่เป็นหินประกอบด้วยอ่าวใหญ่ๆ ที่มีแนวชาย หาดสวยงาม มีแนวปะการังขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าเกาะ
มีสะพานท่าเทียบเรือให้นักท่องเที่ยว ขึ้นลง มีบ้านพักและบังกะโลให้เช่าหลายแห่ง

เกาะพร้าว หรือ เกาะทรายขาว

อยู่ทางทิศใต้หน้าอ่าวสลักเพชร ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือแหลมงอบประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นเกาะที่มีหาดทรายสะอาด
และร่มรื่นด้วยต้นมะพร้าว มีบังกะโลเปิดบริการ

เกาะง่าม

ตั้งอยู่ติดกับเกาะช้างทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีภูมิประเทศเป็นภูเขาแฝด 2 เกาะ วางแนวขนาดกันโดยมีโขดทรายขนาดใหญ่เชื่อมตรงกลาง ชายหาดส่วนใหญ่เป็นหิน มีหาดทราย เล็กๆ 2-3 หาด มีทะเลสาบขนาดใหญ่ 1 แห่ง และเล็ก 1 แห่ง เกิดจากแนวเขาที่โอบน้ำทะเลไว้ จึงเป็นบริเวณที่คลื่นลมสงบ การเดินทางจากแหลมงอบใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

สถานที่ท่องเที่ยวจ.บุรีรัมย์




อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง

ตั้งอยู่บนเขาพนมรุ้ง บ้านตาเป็ก ตำบลตาเป็ก จากตัวจังหวัดบุรีรัมย์ สามารถเดินทางไปพนมรุ้งได้ 2 เส้นทาง คือ

1. ใช้เส้นทางสายบุรีรัมย์-นางรอง (ทางหลวง 208) ระยะทาง 50 กม. เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงสาย 24 ไป 14 กม.
ถึงบ้านตะโก เลี้ยวขวาผ่านบ้านตาเป็กไปพนมรุ้งเป็นระยะทางอีก 12 กม.

2. ใช้เส้นทางสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย ทางหลวงหมายเลข 23 เป็นระยะทาง 44 กม.
จากตัวอำเภอ ประโคนชัย มีทางแยกไปพนมรุ้งระยะทางอีก 21 กม. (เส้นทางนี้ผ่านทางแยกเข้าปราสาทเมืองต่ำ ด้วย)
ปราสาทหินพนมรุ้ง

เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย มีอายุการก่อสร้างและใช้เป็นเทวสถาน ต่อเนื่องกันมา หลายสมัย
ตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 ลงมาถึงพุทธศตวรรษที่ 17 จนถึงพุทธ ศตวรรษที่ 18 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7
แห่งอาณาจักรขอมหันมานับถือศาสนาลัทธิมหายาน เทวสถานแห่งนี้ จึงคงจะได้รับการดัดแปลงเป็นพุทธศาสนาลัทธิมหายานในช่วงนั้น
ตัวโบราณสถาน ตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟ ที่ดับสนิทแล้ว สูงประมาณ 200 เมตร จากพื้นราบ คำว่า "พนมรุ้ง" หรือ "วนํรุง"
เป็นภาษาเขมรแปลว่า "ภูเขาใหญ่" ปราสาทพนมรุ้งหันไปทางทิศตะวันออก ประกอบ ด้วยอาคารและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่ตั้งเรียง รายขึ้นไปจากลาดเขาทางขึ้นจนถึงปรางค์ประธาน บนยอดอัน เปรียบเสมือนวิมานที่ประทับของพระศิวะ บันไดทางขึ้นช่วงแรก
ทำเป็นตระพังสามชั้น ผ่านขึ้นมาสู่ พลับพลาชั้นแรก จากนั้นเป็นทางเดินซึ่งมีเสานาง เรียงปักอยู่ที่ขอบทางทั้งสองข้าง เป็นระยะๆ ถนนทางเดินนี้ ทอดไปสู่สะพานนาคราช ซึ่งเปรียบเสมือนจุด เชื่อมต่อระหว่างดินแดน แห่งมนุษย์และสรวงสวรรค์ ด้าน ข้างของทางเดินทางทิศเหนือ
มีพลับพลาสร้าง ด้วยศิลาแลง 1 หลัง เรียกกันว่า โรงช้างเผือก สุดสะพาน นาคราชเป็นบันไดทางขึ้นสู่ปราสาท ซึ่งทำเป็น ชานพักเป็นระยะๆ
รวม 5 ชั้น สุดบันไดเป็นชานชลา โล่งกว้าง ซึ่งมีทางนำไปสู่สะพานนาคราชหน้า ประตูกลางของระเบียงคด อันเป็นเส้นทางหลักที่จะผ่านเข้า สู่ลานชั้นในของปราสาท และจากประตูนี้ยังมี สะพานนาคราชรับอยู่อีกช่วงหนึ่งก่อนถึงปรางค์ประธาน

ปรางค์ประธาน หรือส่วนที่สำคัญที่สุด ตั้งอยู่ตรง ศูนย์กลางของลานปราสาทชั้นใน มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุมมณฑป
คือห้องโถงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เชื่อมอยู่ทางด้านหน้าที่ส่วนประกอบของปรางค์ประธานตั้งแต่ฐานผนังด้านบนและด้านล่าง เสากรอบประตู
เสาติดผนัง ทับหลัง หน้าบัน ซุ้มชั้นต่างๆ ตลอดจนกลีบขนุนปรางค์ล้วนสลักลวดลายประดับทั้งลวดลายดอกไม้ ใบไม้ ภาพฤาษี เทพประจำทิศ ศิวะ
นาฏราช ที่ทับหลังและหน้าบันด้านหน้าปรางค์ประธาน ลักษณะของลวดลายและ รายละเอียดอื่นๆ ช่วยให้กำหนดได้ว่าปรางค์ประธานพร้อม
ด้วยบันไดทางขึ้นและ สะพานนาคราช สร้างขึ้นเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 17

ภายในลานชั้นในด้านตะวันตกเฉียงใต้ มีปรางค์ขนาดเล็ก 1 องค์ ไม่มีหลังคา จากหลักฐานทาง ศิลปกรรมที่ปรากฏ เช่น ภาพสลักที่หน้าบันทับหลัง บอกให้ทราบได้ว่าปรางค์องค์นี้สร้างขึ้น ก่อนปรางค์ประธาน มีอายุ ในราวพุทธศตวรรษที่ 16

นอกจากนี้ยังมีฐานปรางค์ก่อด้วยอิฐซึ่งมีอายุเก่าลงไปอีก คือประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 อยู่ด้าน ทิศตะวันออกเฉียงเหนือขององค์ประธานและที่มุมทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าก่อด้วยศิลาแลง มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 ร่วมสมัยกันกับพลับพลา ที่สร้างด้วยศิลาแลง ข้างทางเดินที่เรียกว่า "โรงช้างเผือก"

กรมศิลปากรได้ทำการซ่อมแซมและบูรณะปราสาทหินพนมรุ้ง โดยวิธีอนัสติโลซิส คือ รื้อของเดิมลง มาโดย ทำรหัสไว้จากนั้นทำฐานใหม่
ให้แข็งแรง แล้วนำชิ้นส่วนที่รื้อรวมทั้งที่พังลงมากลับไปก่อใหม่ ที่เดิม โดยใช้วิธีการสมัยใหม่ช่วย และเนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย
ปีพุทธศักราชที่ 2531 ได้มีพิธีเปิดอุทยาน ประวัติศาสตร์พนมรุ้งอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2531
โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จพระราชดำเนิน เป็นองค์ประธาน และปลายปีเดียวกัน ก็ได้รับทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์กลับคืนมาจาก ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้มีความงดงามและ สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะมีงานนมัสการรอยพระพุทธบาทพนมรุ้ง จัดในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.
ค่าเข้าชมชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท

การเดินทางไปชมปราสาทหินพนมรุ้งในกรณีที่ท่านมิได้นำรถยนต์ไปเอง ต้องใช้บริการของบริษัทขนส่ง จำกัด แล้วลงที่อำเภอนางรอง จะมีรถสองแถวรับจ้างเหมาขึ้นปราสาทพนมรุ้ง คันละประมาณ 200-300 บาท หรือติดต่อโดยตรงที่
สำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง โทร. (044) 631746









สถานที่ท่องเที่ยวจ.ลำปาง






                                          วัดพระธาตุลำปางหลวง

วัดพระธาตุลำปางหลวง ตั้งอยู่ในเขตตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง อยู่ห่างจากตัวเมืองลำปาง
ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร ตัววัดตั้งอยู่บนเนินสูง มีการจัดวางผัง และส่วนประกอบของวัดสมบูรณ์แบบที่สุด
มีสิ่งก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ บริเวณพุทธาวาสประกอบด้วย องค์พระธาตุลำปางหลวง เป็นประธาน
มีบันไดนาคนำขึ้นไปสู่ซุ้มประตูโขง ถัดซุ้มประตูโขงขึ้นไปเป็น วิหารหลวง บริเวณทิศเหนือขององค์พระธาตุมีวิหารบริวารตั้งอยู่คือ
วิหารน้ำแต้ม และ วิหารต้นแก้ว ด้านตะวันตกขององค์พระธาตุประกอบด้วย วิหารละโว้ และ หอพระพุทธบาท ด้านใต้มี วิหารพระพุทธ
และ อุโบสถ ทั้งหมดนี้จะแวดล้อมด้วยแนวกำแพงแก้วทั้งสี่ด้าน นอกกำแพงแก้วด้านใต้มีประตูที่จะนำไปสู่เขตสังฆาวาส
ซึ่งประกอบด้วยอาคาร
หอพระไตรปิฎก กุฏิประดิษฐาน พระแก้วดอนเต้า อาคารพิพิธภัณฑ์และกุฏิสงฆ์

ประวัติ
ตามตำนานกล่าวว่า ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระเถระสามองค์ได้เสด็จจาริกไปตามบ้านเมืองต่าง ๆ
จนถึงบ้านลัมภะการีวัน (บ้านลำปางหลวง) พระพุทธเจ้าได้ประทับเหนือดอยม่อนน้อย มีชาวลัวะคนหนึ่งชื่อ ลัวะอ้ายกอน
เกิดความเลื่อมใส ได้นำน้ำผึ้งบรรจุกระบอกไม้ป้างมะพร้าว และมะตูมมาถวายพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ได้ฉันน้ำผึ้ง
แล้วทิ้งกระบอกไม้ป้างไปทางทิศเหนือ แล้วทรงพยากรณ์ว่า สถานที่แห่งนี้ต่อไปจะมีชื่อว่า ลัมพกัปปะนคร แล้วได้ทรงลูบพระเศียร
ได้พระเกศามาหนึ่งเส้น มอบให้แก่ลัวะอ้ายกอนผู้นั้น ลัวะอ้ายกอนได้นำพระเกศานั้น บรรจุในผอบทองคำ และใส่ลงในอุโมงค์พร้อมกับถวายแก้วแหวนเงินทองเป็นเครื่องบูชา แล้วแต่งยนต์ผัด(ยนต์หมุน) รักษาไว้ และถมดินให้เรียบเสมอกัน แล้วก่อเป็นพระเจดีย์สูงเจ็ดศอกเหนืออุโมงค์นั้น ในสมัยต่อมาก็ได้มีกษัตริย์เจ้าผู้ครองนครลำปางอีกหลายพระองค์
มาก่อสร้างและบูรณะซ่อมแซม จนกระทั่งเป็นวัดที่มีความงามอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ในทางประวัติศาสตร์นครลำปาง วัดพระธาตุลำปางหลวงมีประวัติว่า เมื่อปี พ.ศ. 2275 นครลำปางว่างจากผู้ครองนคร
และเกิดความวุ่นวายขึ้น สมัยนั้นพม่าเรืองอำนาจได้แผ่อิทธิพลปกครองอาณาจักรล้านนาไว้ได้ทั้งหมด พม่าได้ยึดครองนครเชียงใหม่
ลำพูน โดยแต่งตั้งเจ้าผู้ครองนครอยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์พม่า ท้าวมหายศเจ้าผู้ครองนครลำพูนได้ยกกำลังมายึดนครลำปาง โดยได้มาตั้งค่ายอยู่ภายในวัดพระธาตุลำปางหลวง ครั้งนั้น หนานทิพย์ช้าง ชาวบ้านปงยางคก (ปัจจุบันอยู่อำเภอเกาะคา)
วีรบุรุษของชาวลำปาง ได้รวบรวมพลทำการต่อสู้ทัพเจ้ามหายศ โดยลอบเข้ามาในวัด และใช้ปืนยิงท้าวมหายศตาย
แล้วตีทัพลำพูนแตกพ่ายไป ปัจจุบันยังปรากฏรอยลูกปืนอยู่บนรั้วทองเหลืองที่ล้อมองค์พระธาตุเจดีย์ ต่อมาหนานทิพย์ช้างได้รับ
สถาปนาขึ้นเป็น พระยาสุลวะลือไชยสงคราม เจ้าผู้ครองนครลำปาง และเป็นต้นตระกูล ณ ลำปาง เชื้อเจ็ดตน ณ เชียงใหม่ ณ ลำพูน ณ น่าน

วัดพระธาตุลำปางหลวง
เป็นโบราณสถานสำคัญ ที่ตั้งอยู่ในบริเวณซากเมืองโบราณลัมพกัปปะนคร ตามประวัติพระนางจามเทวีเคยเสด็จมานมัสการ
และทำการบูรณะซ่อมแซมอยู่เสมอ นับว่าเป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณกาล มีความสวยงาม และมีความยอดเยี่ยม
ทั้งสถาปัตยกรรม
ประติมากรรม และจิตรกรรม เป็นที่ประดิษฐาน พระแก้วมรกต ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวลำปาง และชาวพุทธทั่วไป

ประตูโขง
เป็นฝีมือช่างหลวงโบราณที่สวยงามก่ออิฐถือปูนทำเป็นซุ้มยอดแหลมเป็นชั้น ๆ มีสี่ทิศ ประดับตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้น รูปดอกไม้
และสัตว์ในหิมพานต์ ประตูโขงแห่งนี้ใช้เป็นสัญลักษณ์เมืองลำปางในตราจังหวัดลำปาง

มณฑปพระเจ้าล้านทอง
วิหารหลวง เป็นวิหารประธานของวัด ตั้งอยู่บนแนวเดียวกับประตูโขง และองค์พระธาตุเจดีย์ เป็นวิหารจั่วรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ทรงวิหารโล่งตามแบบล้านนายุคแรก หลังคาจั่วซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ภายในวิหารบรรจุมณฑปพระเจ้าล้านทอง ด้านในของแนวคอสอง มีภาพเขียนสีโบราณเรื่องชาดก

องค์พระธาตุเจดีย์
เป็นเจดีย์ล้านนาผสมเจดีย์ทรงลังกา ก่ออิฐถือปูน ประกอบด้วยฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมด้วยบัวมาลัยสามชั้น เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่หุ้มด้วย
แผ่นทองเหลือง ฉลุลายหรือที่เรียกว่าทองจังโก ตามตำนานกล่าวว่าเป็นบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

วิหารน้ำแต้ม
เป็นวิหารบริวารตั้งอยู่ทางทิศเหนือขององค์พระธาตุเจดีย์ เป็นวิหารเครื่องไม้สี่เหลี่ยมผืนผ้า รูปร่างและสัดส่วนงดงาม ภายในคอสองมี
ภาพเขียนสีโบราณที่เก่าแก่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริด ขนาดหน้าตักกว้าง 45 นิ้ว

หอพระพุทธ
เป็นสถาปัตยกรรมก่ออิฐทรงสี่เหลี่ยม ฐานเจดีย์สร้างครอบรอยพระพุทธบาทไว้ สร้างขึ้นสมัยเจ้าหาญแต่ท้อง เมื่อปี พ.ศ.1992

วิหารพระพุทธ
สร้างขึ้นคู่กับวิหารน้ำแต้ม สันนิษฐานว่าเดิมคงเป็นวิหารโล่ง ได้มีการบูรณะซ่อมแซมภายหลัง ภายในวิหารประดิษฐาน
พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 40 นิ้ว เป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะ และส่วนสัดที่งดงามมาก


บันไดทางขึ้นด้านหน้าออกแบบเป็นรูปมังกรคายพญานาคทั้งสองข้างบันได เชิงบันไดมีรูปสิงห์ปูนปั้นขนาดใหญ่สองตัว
สร้างในสมัยเจ้าหอคำดวงทิพย์ เจ้าผู้ครองนครลำปาง เมื่อประมาณ ปี พ.ศ.๒๓๓๑

วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

สถานที่ท่องเที่ยวจ.สุราษฎร์ธานี




หินตา หินยาย หาดละไม

     เป็นหินขนาดมหึมาตั้งอยู่ชายทะเล มีรูปร่างคล้ายอวัยวะเพศชายและหญิง นับเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเกาะสมุยที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต้องแวะเวียนไปชม ระหว่างทางเดินไปหินตาหินยายยังมีร้านค้าของฝากนานาชนิดให้ซื้อติดมือเป็นที่ระลึก เช่น ผ้าบาติก งานหัตถกรรมจากมะพร้าว
กะละแม เป็นต้น
     หากเดินจากลานจอดรถผ่านร้านค้าของที่ระลึกไปจะพบลานหินกว้าง มองไปทางขวามือจะเห็นหินตา ซึ่งเกิดจากหินแกรนิตที่ถูกกัดเซาะ
โดยน้ำทะเลและความร้อน คล้ายอวัยวะเพศชายขนาดใหญ่ตั้งชี้ฟ้าอยู่ใกล้ชายทะเล
นักท่องเที่ยวจะหยุดยืนชมหินตาจากลานหินนี้ ยามเย็นบริเวณลานหินยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมองเห็นพระอาทิตย์ลับไปหลังเนินหิน
     ส่วนหินยายอยู่ทางซ้ายมือ เป็นหินแกรนิตขนาดใหญ่มหึมาตั้งอยู่ชายทะเล ลักษณะเหมือนร่างผู้หญิงช่วงตั้งแต่เหนือหัวเข่าไปถึงเอวดดยนอนหันหน้ารับคลื่นลมที่ซัดสาดอยู่เป็นระยะ
     มีตำนานเล่าว่า นานมาแล้วมีตายายคู่หนึ่งชื่อตาเครงกับยายเรียม เป็นชาวปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เดินทางโดยเรือใบ
เพื่อไปสู่ขอลูกสาวของตาม่องล่ายที่ จ. ประจวบคีรีขันธ์ ให้แก่ลูกชาย ครั้นเรือแล่นมาถึงแหลมละไม เกิดพายุใหญ่ทำให้เรือล่ม ทั้งตาและยายได้อธิษฐานว่าขอให้เกิดเป็นสัญลักษณ์ให้ตาม่องล่ายได้ทราบว่าตามาหาแล้ว มิได้ผิดคำสัญญาแต่ประการใด ดังนั้นเมื่อตาและ
ยายเสียชีวิต คลื่นได้ซัดร่างมาเกยชายหาด กลายมาเป็นหินตาและหินยายจนถึงปัจจุบัน
 

สถานที่ท่องเที่ยวจ.เลย





เลย

     ตั้งที่ตำบลศรีฐาน มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 217,576 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานฯ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2505
บนยอดภูกระดึงเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตรกม. มีต้นสนขึ้นเป็นดง มีไม้ดอกและป่าละเมาะ
ทุ่งหญ้าสลับด้วยป่าดงดิบเรียงรายไปตามลำธาร มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่หลายชนิด

จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนภูกระดึง

ผาหล่มสัก
    เป็นลานหินกว้าง และมีสนต้นหนึ่งชิดริมผาประกอบกับเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกได้ชัดเจนที่สุด จึงทำให้นักท่องเที่ยว
ช่างภาพนิยมไปถ่ายภาพที่ผาหล่มสักกันมาก

น้ำตกตาดร้อง
     เกิดจากลำน้ำพอง ซึ่งไหลลงมาจากภูกระดึงทางหุบเขาด้านตะวันตกเฉียงเหนือสองฝั่งของตาดร้อง เป็นผาสูงหินชันมาก
เมื่อน้ำตกผ่านผาหินกว้างที่ลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ จึงทำให้เกิดเสียงกึกก้อง

น้ำตกเพ็ญพบใหม่
     เกิดจากลำธารวังกวาง น้ำตกผ่านผาหินรูปโค้ง ในหน้าหนาวใบเมเปิ้ลจากบริเวณริมน้ำจะร่วงหล่นลอยไปตามผิวน้ำเป็นสีแดง
จัดตัดกับตะไคร่ตามโขดหินลำธารวังกวาง
เป็นต้นกำเนิดน้ำตกที่มีชื่ออีกแห่งหนึ่ง คือ น้ำตกโผนพบ

ผาหมากดูก
     ผาหมากดูกเป็นผาที่มีลักษณะเป็นลานหินกว้าง และสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างชัดเจน

ผานกแอ่น
     เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามมากแห่งหนึ่ง สามารถมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างซึ่งเป็นท้องทุ่ง และเทือกเขา ริมทางเดินใกล้ผานกแอ่นมีดอกกุหลาบป่าขึ้นเป็นดงใหญ่ ซึ่งบานสะพรั่งในเดือน มีนาคม-เมษายน

น้ำตกโผนพบ
    น้ำตกโผนพบเป็นน้ำตกซึ่งตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ โผน กิ่งเพชร นักชกแชมเปี้ยนโลกคนแรกของชาวไทย ในฐานะเป็นผู้พบคนแรกเมื่อคราวที่ขึ้นไปซ้อมมวยให้ชินกับอากาศหนาวเย็นในต่างประเทศ

สระแก้ว
อยู่ในส่วนต้นน้ำของ "ธารสวรรค์" ลักษณะเป็นวังน้ำลึกขนาดไม่กว้างนัก น้ำใสมากจนสามารถมองเห็นพื้นหินได้

สระอโนดาด
เป็นสระน้ำขนาดย่อมที่มีต้นสนขึ้นเป็นแนวแน่นขนัดตามริมสระ บริเวณปากธารไหลมีลานหินโผล่ขึ้นมายามน้ำน้อย

น้ำตกถ้ำใหญ่
น้ำตกถ้ำใหญ่เป็นน้ำตกที่อยู่ท่ามกลางป่าดงดิบ เป็นน้ำตกที่ค่อนข้างสูงของภูกระดึง เป็นน้ำตกที่ไม่กว้างนัก ทำให้น้ำที่ตกลงมากระทบกับโขดหินข้างล่างเสียงดังสนั่นกึกก้องท่ามกลางป่าดงดิบ
 
ผาเหยียบเมฆ
ผาเหยียบเมฆเป็นผาที่มีลักษณะเป็นลานหินกว้าง เป็นจุดหนึ่งที่สามารถชมทะเลหมอกในยามเช้าได้อย่างชัดเจน

น้ำตกถ้ำสอ
เป็นน้ำตกแห่งเดียวบนภูกระดึงที่สองขนาบไปด้วยทุ่งหญ้าป่าสน จะมีป่าเฉพาะตามลำธารเท่านั้น
 
น้ำตกผาน้ำผ่า
เป็นน้ำตกที่ไหลมาตามไหล่หิน แลดูสวยงาม

แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ ในเขตอุทยานฯ ภูกระดึง
    อุทยานแห่งชาติภูกระดึงยังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น น้ำตกวังกวาง น้ำตกรัตนา น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกพระองค์
น้ำตกธารสวรรค์ ผาแดง ผานาน้อย ผาจำศีล หลังแป สวนสีดา ลานกินรี ลานวัดพระแก้ว เป็นต้น
     นักท่องเที่ยวควรใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน จึงจะเที่ยวได้ทั่วถึง ขณะที่เดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ บนภูกระดึง
เราจะพบพระพุทธรูปอยู่ระหว่างทางด้วย
     การเดินทาง นักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถโดยสารประจำทางควรใช้รถประจำทางเส้น กรุงเทพฯ-เลย แล้วลงที่ผานกเค้า
ซึ่งเป็นเขตต่อแดนระหว่างชุมแพ-ภูกระดึง จากที่นี่จะมีรถสองแถว ไปอุทยานแห่งชาติภูกระดึง หรือหากนักท่องเที่ยวใช้รถประจำทาง
เส้นทางกรุงเทพฯ-ขอนแก่น ลงที่ชุมแพ และต่อรถสายขอนแก่น-เลย ไปลงที่ตลาดอำเภอภูกระดึง ซึ่งจะมีรถสองแถวไปอุทยานฯ
     สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถส่วนตัวจากตัวเมืองเลยใช้เส้นทางหมายเลข 201(เลย-ภูกระดึง)
พอถึงกม.ที่ 276-277 ก็เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2019 อีก 8 กม. ก็จะถึง ที่ทำการอุทยานฯ
บริเวณที่ทำการอุทยานฯ มีด่านเก็บค่าธรรมเนียมคนละ 5 บาท และบริการลูกหาบสัมภาระ กิโลกรัมละ 8 บาท
จากนั้นนักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าขึ้นสู่ภูกระดึงอีก เป็นระยะทางประมาณ 5.5 กม.
การขึ้นไปเที่ยวบนภูกระดึง ควรติดต่อเต็นท์ล่วงหน้าที่สำนักป่าไม้จังหวัดเลย โทร. (042)811112 ราคา 50-100 บาท
     อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จะปิดระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน ทุกปี เพื่อปรับสภาพธรรมชาติ ให้ฟื้นตัวและปรับปรุงสถานที่พักสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว

 

วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

สถานที่ท่องเที่ยวจ.กาญจนบุรี






ทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ (สายมรณะ)

       ถ้ำนี้เป็นถ้ำที่เคยเป็นที่พักของเชลยศึกเมื่อครั้งสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะจากไทยไปพม่า ตัวถ้ำติดกับเส้นทางรถไฟสายกาญจนบุรี–น้ำตก วึ่งเป็นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันสิ้นสุดที่สถานีรถไฟน้ำตก ภายในถ้ำโปร่งและมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐาน
อยู่ มองจากปากถ้ำมาที่บริเวณทางรถไฟจะเห็นทิวทัศน์ที่งดงามและมองเห็นแม่น้ำแควน้อยอยู่เบื้องล่าง บริเวณนี้เป็นจุดที่สร้างทางรถไฟยากที่สุด เนื่องจากเส้นทางโค้งเลียบเขาการเดินทาง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 55 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 กิโลเมตรที่ 29–30

       ทางรถไฟสายนี้เริ่มต้นจากสถานีหนองปลาดุก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ผ่านเข้ากาญจนบุรี ข้ามแม่น้ำแควใหญ่ ไปทางทิศตะวันตก ผ่านด่านพระเจดีย์สามองค์จนถึงปลายทางที่เมืองตันบีอุซายัต ประเทศพม่า เส้นทางสายนี้เป็นน้ำ พักน้ำแรงการบุกเบิกของทหารเชลยศึกพันธมิตร ที่กองทัพญี่ปุ่นเกณฑ์สร้างเพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ผ่าน ประเทศพม่า ทิวทัศน์ตลอดเส้นทางนี้สวยงามมาก ปัจจุบันเส้นทางสายนี้ไปสุดที่บ้านท่าเสา หรือสถานีน้ำตก ระยะ ทางจากสถานีกาญจนบุรีถึงสถานีน้ำตกเป็นระยะทางประมาณ 77 กม. การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเดินรถ
บนเส้นทางสายนี้ทุกวัน และจัดรถไฟขบวนพิเศษสายกรุงเทพฯ-น้ำตก ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ติดต่อ สอบถามรายละเอียดได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 2237010, 2237020




 




วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

จังหวัดภูเก็ต




"ไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้
หาดทรายสีทอง สองวีรสตรี บารมีหลวงพ่อแช่ม"


          คำว่า “ภูเก็ต” นั้นเชื่อว่าเพี้ยนมาจากภาษามลายูคือ “บูกิ๊ต” ซึ่งแปลว่าภูเขา ภูเก็ตเป็นเมืองที่มีมานาน
ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยโดยตัวเมืองอยู่ที่ถลางซึ่งเป็นเมืองเล็กๆเมืองถลางเดิมมีขุนนางไทยคอยดูแลรักษาผลประโยชน์
เพราะฝรั่งชาติฮอลันดามารับซื้อสินค้าจำพวกแร่ ต่อมาถึงรัชกาลที่ ๑ พระเจ้ากรุงอังวะยกกองทัพเข้ามารุกรานหัวเมือง
ฝ่ายตะวันตกแถบชายทะเลของไทยในปี พ.ศ.๒๓๒๘ โดยแบ่งกองทัพยกไปตีเมืองกระ ระนอง ชุมพร ไชยา ตลอดลง
ไปถึงเมืองนครศรีธรรมราช ขณะนั้นกองทัพกรุงเทพฯ ยังติดพันการศึกที่กาญจนบุรียกมาช่วยไม่ทัน พม่าส่งแม่ทัพชื่อยี่หวุ่น
ยกทัพเรือมาตีได้ตะกั่วทุ่ง ตะกั่วป่า แล้วเลยไปตั้งค่ายล้อมเมืองถลางไว้ ขณะนั้นพระยาถลางถึงแก่กรรมยังไม่ได้ตั้งเจ้าเมืองใหม่
ภริยาเจ้าเมืองถลางชื่อจัน กับน้องสาวชื่อมุก จึงคิดอ่านกับกรรมการทั้งปวงตั้งค่ายใหญ่ขึ้น ๒ ค่าย ป้องกันรักษาเมืองเป็นสามารถ พม่าล้อมเมืองอยู่เดือนเศษเมื่อหมดเสบียงก็เลิกทัพกลับไป ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องยศให้วีรสตรีทั้งสองเป็นท้าวเทพกษัตรีและท้าวศรีสุนทร เป็นที่น่าภาคภูมิใจแก่ชาวเมืองตลอดมา เกาะถลางหรือเมืองถลางได้เปลี่ยนชื่อเป็นเกาะภูเก็ต หรือเมืองภูเก็ตในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
           ภูเก็ต ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกแห่งอันดามัน เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ในด้านความสวยงามของทิวทัศน์
และหาดทราย น้ำทะเลสีฟ้าใส พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทางการท่องเที่ยวครบครัน เป็นเกาะใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
มีฐานะเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ ตั้งอยู่ทางชายฝั่งทะเลตะวันตกของประเทศไทยในน่านน้ำทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย
มีพื้นที่ประมาณ 543 ตารางกิโลเมตร ความยาวสุดของเกาะภูเก็ตวัดจากทิศเหนือถึงทิศใต้ประมาณ 48.7 กิโลเมตร และส่วนกว้างที่สุดวัดจากทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตกประมาณ 21.3 กิโลเมตร ภูเก็ตแบ่งออกเป็น 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง
อำเภอถลาง และอำเภอกะทู้
ภูมิอากาศ
ภูเก็ตมีอากาศแบบฝนเมืองร้อน มีลมพัดผ่านตลอดเวลา อากาศอบอุ่นและชุ่มชื้นตลอดปี มี 2 ฤดู คือ ฤดูร้อนและฤดูฝน
ฤดูฝนเริ่มเดือนพฤษภาคม-เดือนพฤศจิกายน ฤดูร้อนเริ่มเดือนธันวาคม-เดือนเมษายน ช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน
เป็นช่วงที่อากาศดีที่สุดไม่มีฝน ท้องฟ้าแจ่มใส
อาณาเขตทิศเหนือ ติดกับจังหวัดพังงา เชื่อมโดยสะพานสารสินและสะพานท้าวเทพกษัตรี
ทิศใต้ ติดกับทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย
ทิศตะวันออก ติดกับทะเลเขตจังหวัดพังงา
ทิศตะวันตก ติดกับทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย

จังหวัดกระบี่



กระบี่ี่

      กระบี่ เมืองชายทะเลในฝันงดงามด้วยหาดทรายขาว น้ำทะเลใส ปะการังสวย ถ้ำโตรกชะโงกผา และหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า ๑๐๐ เกาะ รวมกันเป็นมนต์เสน่ห์ที่สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน
      กระบี่ เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ๘๑๔ กิโลเมตร มีเนื้อที่ ๔,๗๐๘ ตารางกิโลเมตร กระบี่
ประกอบด้วยภูเขา ที่ดอน ที่ราบ หมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า ๑๓๐ เกาะ อุดมไปด้วยป่าชายเลน ตัวเมืองกระบี่มีแม่น้ำยาวประมาณ ๕ กิโลเมตร ไหลผ่านลงสู่ทะเลอันดามันที่ตำบลปากน้ำ นอกจากนี้ยังมีคลองปกาสัย คลองกระบี่ใหญ่ และคลองกระบี่น้อย มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาที่สูงที่สุด
ในจังหวัดกระบี่ คือ เทือกเขาพนมเบญจา จากหลักฐานทางโบราณคดี สันนิษฐานได้ว่าบริเวณเมืองกระบี่เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณที่เก่าแก่มากแห่งหนึ่งในประเทศไทย
ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์และต่อเนื่องมาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์ กล่าวกันว่าดินแดนนี้แต่เดิมคือเมืองบันไทยสมอ ๑ ใน ๑๒ เมืองนักษัตรที่ใช้ตราลิงเป็นตราประจำเมือง ขึ้นกับอาณาจักรนครศรีธรรมราช นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับชื่อเมืองกระบี่ว่า อาจมาจากความหมายที่แปลว่าดาบ เนื่องจากมีตำนานเล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับการขุดพบมีดดาบโบราณก่อนที่จะสร้างเมือง

อันเป็นที่มาของสัญลักษณ์จังหวัดกระบี่
อาณาเขต
• ทิศเหนือ ติดกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี
• ทิศใต้ ติดกับจังหวัดตรังและทะเลอันดามัน
• ทิศตะวันออก ติดกับจังหวัดนครศรีธรรมราช
• ทิศตะวันตก ติดกับจังหวัดพังงาและทะเลอันดามัน
การเดินทาง
• รถยนต์ จากกรุงเทพฯ
๑. จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข ๔ ผ่านจังหวัดเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-ระนอง-พังงา-กระบี่ ระยะทาง ๙๔๖ กิโลเมตร
๒. จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข ๔ ถึงจังหวัดชุมพร จากชุมพรใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๑ ผ่านอำเภอหลังสวน อำเภอไชยา
จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าอำเภอเวียงสระ ใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๐๓๕ ถึงอำเภออ่าวลึก แล้ววกเข้าทางหลวงหมายเลข ๔ อีกครั้งหนึ่ง
ถึงจังหวัดกระบี่ ระยะทาง ๘๑๔ กิโลเมตร

• รถโดยสารประจำทาง มีรถออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ไปจังหวัดกระบี่ทุกวัน ทั้งรถปรับอากาศและรถ วี.ไอ.พี สอบถามข้อมูล
โทร. ๐ ๒๔๓๕ ๑๑๙๙, ๐ ๒๔๓๕ ๑๒๐๐ สำหรับบริษัทเดินรถเอกชน ติดต่อ บริษัท ลิกไนท์ จำกัด โทร. ๐ ๒๔๓๕ ๑๑๙๙, ๐ ๒๔๓๕ ๑๒๐๐
• รถไฟ จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ มาลงที่สถานีรถไฟจังหวัดตรัง หรือสถานีรถไฟทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นต่อรถโดยสาร หรือรถแท็กซี่รับจ้างเข้าจังหวัดกระบี่ สอบถามรายละเอียดได้ที่ หน่วยบริการเดินทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย
โทร. ๑๖๙๐, ๐ ๒๒๒๓ ๗๐๑๐, ๐ ๒๒๒๓ ๗๐๒๐
• เครื่องบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดกระบี่ทุกวัน สอบถามรายละเอียด
โทร. ๑๕๖๖, ๐ ๒๒๘๐ ๐๐๖๐, ๐ ๒๖๒๘ ๒๐๐๐ และสายการบิน พี.บี.แอร์ ก็มีบริการเที่ยวบินทุกวันเช่นกัน สอบถามเพิ่มเติม
โทร. ๐ ๒๒๖๑ ๐๒๒๐-๕
การเดินทางภายในจังหวัดกระบี่
• จากตัวเมืองกระบี่ มีรถโดยสารประจำทาง (สองแถว) ไปยังสถานที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น บ้านห้วยโต้
บ้านหนองทะเล บ้านเขาทอง หาดนพรัตน์ธารา สุสานหอย อ่าวนาง บ้านคลองม่วง บ้านในสระ อำเภอเขาพนม อำเภอเหนือคลอง
อำเภอคลองท่อม บ้านบ่อม่วง บ้านหัวหิน บ้านคลองพน อำเภอลำทับ อำเภออ่าวลึก อำเภอปลายพระยา สามารถขึ้นรถได้ที่ห้างสรรพสินค้าโว้ค
ถนนมหาราชในตัวเมืองกระบี่ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นสามารถใช้บริการรถแท็กซี่ หรือเช่ารถจากบริษัทนำเที่ยวต่างๆ ในตัวเมืองกระบี่

ระยะทางระหว่างอำเภอเมืองและอำเภอต่าง ๆ ดังนี้
อำเภอเหนือคลอง ๑๗ กิโลเมตร
อำเภอเขาพนม ๓๙ กิโลเมตร
อำเภอคลองท่อม ๔๒ กิโลเมตร
อำเภออ่าวลึก ๔๓ กิโลเมตร
อำเภอปลายพระยา ๖๖ กิโลเมต
อำเภอลำทับ ๖๗ กิโลเมตร
อำเภอเกาะลันตา ๑๐๓ กิโลเมตร
ระยะทางจากตัวเมืองกระบี่ไปยังจังหวัดใกล้เคียง
พังงา ๘๖ กิโลเมตร
ตรัง ๑๓๑ กิโลเมตร
ภูเก็ต ๑๗๖ กิโลเมตร
พัทลุง ๑๙๓ กิโลเมตร
สุราษฎร์ธานี ๒๑๑ กิโลเมตร
นครศรีธรรมราช ๒๓๓ กิโลเมตร
สตูล ๒๗๖ กิโลเมตร

สถานที่ท่องเที่ยวจ.ระยอง


อุทยานแห่งชาติเขาเเหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด

       อุทยานแห่งชาติเขาเเหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ดตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลด้านอ่าวไทย ในท้องที่อำเภอแกลง
และอำเภอเมือง จังหวดระยอง ครอบคลุมพื้นที่บนฝั่งและในท้องทะเล ตลอดจนเกาะต่างๆ ประกอบด้วยเกาะเสม็ด
เกาะจันทร์ เกาะทะลุ เกาะกุฎี เกาะมะขาม และเกาะปลายตีน เขาแหลมหญ้าและชายทะเลด้านทิศตะวันตกของเขาแหลมหญ้า
สถานที่ที่เด่นที่สุดเป็นที่รู้จักกันดี คือ เกาะเสม็ดหรือเกาะแก้วพิสดาร ซึ่งกล่าวไว้ในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ความงดงามตามธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติแห่งนี้เป็นที่ยอมรับของ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย
และชาวต่างประเทศว่า มีทิวทัศน์สวยงาม เหมาะสำหรับการพักผ่อน


       ในปีพ.ศ.2518ได้มีนายทุนกลุ่มหนึ่งรวมหุ้นกันเพื่อดำเนินการขอเช่าเกาะเสม็ด
จากจังหวัดระยองเพื่อจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยจะสร้างกระเช้าลอยฟ้าข้ามจากฝั่ง
เขาแหลมหญ้าไปยังเกาะเสม็ดเพื่อบริการนักท่องเที่ยวแต่โครงการต้องระงับไปเพราะ
ได้ถูกกลุ่มนิสิต นักศึกษาเป็นจำนวนมากจากหลายสถาบันเดินขบวนคัดค้าน และในปีเดียวกันนั้นสมาคมอนุรักษ์ศิลปกรรม
และสิ่งแวดล้อมได้มีหนังสือที่ 538/2518ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2518 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง
ให้ความเห็นว่า ควรมีการอนุรักษ์เกาะเสม็ด(เกาะแก้วพิสดารในเรื่องพระอภัยมณีอันเป็นวรรณกรรมเอก
ของสุนทรภู่) ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สงวนไว้เป็นสมบัติของประชาชนโดยทั่วไป
โดยจัดตั้งเป็นวนอุทยานทางทะเล และคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติในการประชุม
ครั้งที่ 1/2519 เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2519 ให้กรมป่าไม้ประสานกับจังหวัดระยอง
พิจารณาในการจัดตั้งเกาะเสม็ดเป็นอุทยานแห่งชาติ ขณะนั้นเกาะเสม็ดอยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือ
กรมป่าไม้จึงได้มีหนังสือที่ กษ 08081713ลงวันที่31มกราคม2522ขอพื้นที่ดังกล่าวไปอยู่ในความควบคุมดูแล
ของกรมป่าไม้ ซึ่งกองทัพเรือได้มีหนังสือ ที่ กห 0352/6405 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2522
ตอบไม่ขัดข้องที่จะให้กรมป่าไม้เข้าควบคุมดูแลเกาะเสม็ด และต่อมาคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้มีมติในการประชุม
ครั้งที่ 5/2522เมื่อวันที่19ธันวาคม2522แจ้งให้กรมป่าไม้ดำเนินการอนุรักษ์
เกาะเสม็ดเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล


         กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ จึงได้มีคำสั่ง ที่ 82/2523 ลงวันที่ 14 มกราคม 2523 ให้นายสมบูรณ์วงศ์ภักดีออกไปทำการสำรวจพื้นที่ป่าไม้บริเวณเขาแหลมหญ้าและ
บริเวณข้างเคียง ท้องที่บ้านเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เพื่อกำหนดเป็นอุทยานแห่งชาติ
และให้ทำการจัดตั้งเป็นวนอุทยานเขาแหลมหญ้า ซึ่งจากการสำรวจของสมบูรณ์ วงศ์ภักดี
พบว่า เขาแหลมหญ้าประกอบด้วยเขาดินลูกรังเตี้ยๆ ชายทะเลทางทิศตะวันตก
มีหาดทรายกว้าง และทอดตัวโค้งยาวออกไปสวยงามมาก น้ำทะเลใสจนสามารถมองเห็นแนวปะการังที่สวยงามได้อย่างชัดเจน เกาะเสม็ดประกอบด้วยหาดทรายขาวรอบเกาะ เป็นหาดทรายที่สวยงาม เหมาะแก่การท่องเที่ยวพักผ่อน
ทั้งมีเกาะเล็กเกาะน้อยที่มีหาดทรายและธรรมชาติสวยงาม เหมาะสมต่อการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ


สถานที่ท่องเที่ยวจ.เชียงราย





      ภูชี้ฟ้า "หลังคาสยาม"

      หากกล่าวถึง“ภูชี้ฟ้า"สำหรับนักเดินทางแล้วหลายคนคงมีโอกาสได้
มาชื่นชมทัศนียภาพทะเลหมอกพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าอาบลมห่มหนาว
นั่งดูดาวยามค่ำคืน
ถ้าบางคนยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสบรรยากาศ
ดังกล่าวก็ควรให้รางวัลแก่ชีวิตได้


      ภูชี้ฟ้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน
มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ1,628เมตร(5,426ฟุต)
ตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อแนวตะเข็บของเส้นแบ่งพรหมแดนของประเทศไทย
และบ้านเชียงตองแขวงไชยบุรี สปป.ลาว บนเทือกเขาผาหม่น ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างให้ชื่อของภูชี้ฟ้า ตามก้อนหินขนาดมหึมาทรงเหลี่ยมแหลมปลายยอดชี้ขึ้นไปบนฟ้าว่า
“หลังคาแห่งสยาม”
ภูชี้ฟ้า เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นสลายหมอกอีกแห่งหนึ่ง ช่วงที่สวยงามมากคือเดือนพฤศจิกายน-มกราคม
วลา 6.30-7.30 น. อยู่ห่างจากดอยผาตั้ง 25 กม. มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชึ้นขึ้นไปบนฟ้า โดยมีหน้าผายื่นเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว บนยอดภูชี้ฟ้าเป็นทุ่งหญ้ากว้าง
แซมด้วยทุ่งโคลงเคลงมีมีดอกสีชมพูอมม่วง ซึ่งจะบานระหว่างเดือน กรกฏาคม-มกราคม

* ก่อนถึงภูชี้ฟ้า 50 เมตรด้านขวามือเป็นดอยหลังเต๋า
* เขตแดนแนวสันเขาของภูชี้ฟ้าเป็นเส้นแนวแบ่งเขตไทยลาว
* ระยะทางจากจุดลานจอดรถขึ้นภูชี้ฟ้า 700 เมตร เดินทางเท้า
* มีแม่คะนิ้ง ตลอดทางเดิน
* มีดอกไม้ป่าขึ้นตามธรรมชาติ เช่น ดอกโคร่งเครา ดอกหญ้า ต้นแอบเปิ้ลป่า ผักกูดป่า(กินไม่ได้)
ต้นไม้ที่ใช้ทำไม้กวาด(ต้นกก หรือต้นก๋ง) สตอร์ป่าออกตอนหน้าแล้ง องุ่นป่า

เส้นทางที่สามารถขึ้นไปยังจุดชมวิวมี 3 ทาง คือ
1. ทางบ้านร่มฟ้าไทย หมู่ที่ 24 ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง ทางเดินรถถนนลาดยางผ่านวนอุทยานภูชี้ฟ้า
ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ถึงลานจอดรถเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 700 กว่าเมตร
2. ทางบ้านร่มฟ้าไทย ทางเดินเท้าจากหมู่บ้านขึ้นไประยะทาง 1,800 เมตร
สำหรับหนุ่ม – สาว และนักเดินทางทางธรรมชาติ
3. ทางบ้านร่มฟ้าทอง ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น ถนนคอนกรีต ถึงหน่วยจัดการต้นน้ำ หงาว – งาว 2042
แล้วเดินต่อด้วยเท้าประมาณ 800 เมตร

การเดินทางไปภูชี้ฟ้า (แผนที่)
         จากจังหวัดเชียงราย สามารถเดินทางไปยังภูชี้ฟ้า ซึ่งอยู่ห่างจากจังหวัดประมาณ 113 กิโลเมตร
โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ตามเส้นทางหมายเลข1021 (เชียงราย – อำเภอเทิง)
ถึงอำเภอเทิง ระยะทาง 64 กิโลเมตร เป็นทางลาดยางจากอำเภอเทิงสามารถเดินทางขึ้นไปยังภูชี้ฟ้าได้ 3 เส้นทาง คือ
1. เส้นทางอำเภอเทิง – บ้านปางค่า โดยใช้เส้นทางหมายเลข 1021 และ 1155 ผ่านบ้านราษฎร์ภักดี ถนนสาย 1093 แยกไปทางขวาระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ถึงบ้านร่มฟ้าไทย ถ้าแยกไปทางซ้ายระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงบ้านร่มฟ้าทอง
ะยะทางประมาณ 49 กิโลเมตร
2. เส้นทางอำเภอเทิง – บ้านปางค่า โดยใช้เส้นทางหมายเลข 1021 และ 1155 ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร เป็นทางลาดยาง จากบ้านปางค่าเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางหมาเลข 1093 บ้านปางค่า – บ้านร่มโพธิ์ไทย (เล่าอู่) – บ้านร่มฟ้าไทย ระยะทางประมาณ 21 กิโลเมตร สภาพเป็นดินลูกรัง ขึ้นเขาและมีสภาพชันเป็นบางช่วง เหมาะสำหรับขับเคลื่อน 4 ล้อ
3. เส้นทางอำเภอเทิง – บ้านสบบง (อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา) บ้านฮวก โดยเส้นทางหมายเลข 1021 และทาง รพช. หมายเลข 11022 ระยะทางประมาณ 49 กิโลเมตร และจากบ้านฮวก ถึงบ้านร่มฟ้าไทย (ภูชี้ฟ้า) ใช้เส้นทางหมายเลข 1093 ระยะทางประมาณ 36 กิโลเมตร เป็นทางลาดยางขึ้นเขาและเลียบริมเขาตลอดจนถึงบ้านร่มฟ้าไทย (ภูชี้ฟ้า) รวมระยะทางประมาณ 85 กิโลเมตร




สถานที่ท่องเที่ยวจ.เชียงใหม่


อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
เชียงใหม่


               มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ อำเภอแม่ริม อำเภอหางดง และอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วยป่าที่อุดมสมบูรณ์ ภูเขาที่สูงสลับซับซ้อน ที่สำคัญได้แก่ ดอยสุเทพ ดอยบวกห้า และดอยปุย เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธาร มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และสำคัญทางศาสนา และทางประวัติศาสตร์ มีเนื้อที่ ประมาณ 262.50 ตารางกม. หรือ 163,162.50 ไร่
               การเดินทางไปยังที่ทำการอุทยานฯ จากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 5 กม. ตามถนนห้วยแก้ว-มหาวิทยาลัยเชียงใหม่-สวนสัตว์ เชียงใหม่ ถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพวรวิหาร จากนั้นเดินทางต่อไปอีกเล็กน้อย ถึงทางแยกขวามือ มีป้ายบอกทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย

ในพื้นที่อุทยานฯ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือ

วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ

               เดินทางตามถนนห้วยแก้วผ่านอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ไปตามทางคดเคี้ยวขึ้นเขา ระหว่างทางจะมองเห็น ตัวเมืองเชียงใหม่อยู่เบื้องล่าง ระยะทางจากเชิงดอยประมาณ 11 กม. เมื่อขึ้นมาถึงจะมองเห็นบันไดทอดยาวขึ้นไปสู่วัด และมีนาค 2 ตัว อยู่สองข้างบันไดซึ่งสูง 300 กว่าขั้น วัดพระธาตุดอยสุเทพนี้ เป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวซึ่ง เดินทางไปเชียงใหม่ จะต้องขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุกันทุกคน ถ้าหากใครไม่ได้ขึ้นไปนมัสการแล้ว ถือเสมือนว่ายังมาไม่ถึงเชียงใหม่ วัดพระธาตุดอยสุเทพนี้ ประดิษฐานอยู่บนดอยสุเทพ สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 3,051 ฟุตและและเป็นปูชนียสถานที่สำคัญคู่เมืองเชียงใหม่ จะมีงานประเพณี ีสรงน้ำพระบรมธาตุในวันเพ็ญวิสาขบูชาทุกปี